Q&A
หลังจากล้างแอร์ ต้องเติมน้ำยาแอร์ไหม?
ถ้าแอร์เย็นปกติไม่ต้องเติม แต่ถ้าแอร์เย็นไม่ปกติต้องตรวจเช็คน้ำยาแอร์ก่อน หากต้องมีการเติมน้ำยาช่างต้องแจ้งลูกค้าก่อนทุกครั้ง พร้อมทั้งบอกสาเหตุว่าเกิดจากอะไร? หากเกิดจากการรั่วจะไม่สามารถเติมน้ำยาได้เลยทันที ช่างต้องทำการตรวจเช็คหารั่ว พร้อมแก้รั่ว แล้วค่อยเติมน้ำยา
**ก่อนลงมือทำทุกครั้ง ช่างต้องแจ้งรายละเอียด+ราคาให้ลูกค้าทราบก่อนทุกครั้ง
เมื่อไหร่ถึงควรล้างแอร์ นานแค่ไหน?
ปกติทั่วไป แนะนำ 1 ปี ล้างแอร์ 2 ครั้ง (6 เดือน/ ครั้ง)
ถ้าบ้านที่เลี้ยงสัตว์ภายในบ้าน แนะนำให้ล้าง 3-4 เดือน/ครั้ง เนื่องจากขนของสัตว์เลี้ยงมีความเบา จะลอยปลิวขึ้นไปติดที่แผงเวลาเปิดแอร์ ทำให้แอร์ตันเร็วและไม่เย็น
**ร้านเสริมสวย และร้านสปา แนะนำให้ล้างแอร์ 3-4 เดือน/ครั้ง
เหตุผลที่ต้องล้างแอร์ก่อนเข้าหน้าร้อน ?
ไม่ทำให้ฝุ่นสะสม เพราะหากเราไม่ล้างแอร์เป็นเวลานาน จะทำให้มีฝุ่นสะสมภายในแอร์ ก่อให้เกิดเชื้อโรค แบคทีเรีย และยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของแอร์อีกด้วย ดังนั้นเราควรหมั่นล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ไม่ต้องรอคิวนาน ในช่วงหน้าร้อนช่างแอร์จะมีงานเยอะเป็นพิเศษ เพราะช่วงหน้าร้อนด้วยยอดขายแอร์ที่สูงขึ้นในช่วงนี้ ทำให้คิวล้าง ซ่อมแซม และติดตั้งเยอะ คิวช่างเต็ม ทำให้เราต้องรอคิวช่างนานขึ้นเป็นพิเศษ
แอร์เย็นฉ่ำขึ้น เพราะการล้างแอร์จะช่วยกำจัดฝุ่นที่สะสมอยู่ภายในแอร์ออกทั้งหมด ทำให้ลมของแอร์ออกมาได้เต็มที่ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์
ยืดอายุการใช้งานของแอร์ เพราะยิ่งช่วงหน้าร้อน แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่า แต่แอร์ไม่สามารถทำงานได้เต็มอย่างประสิทธิภาพ ด้วยฝุ่นที่สะสมอยู่ภายในแอร์ ทำให้ลมของแอร์ออกมาได้ไม่เต็มที่ และอาจเลวร้ายถึงขั้นแอร์เสียเลยก็เป็นได้
ล้างแอร์แล้วได้อะไร ทำไมถึงต้องล้างแอร์?
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า แอร์ของฉันก็ยังเย็นอยู่ ปัญหาอะไรก็ไม่มี ไม่เห็นจำเป็นจะต้องล้างแอร์เลย เรามาดูข้อเท็จจริงกันดีกว่าค่ะ ว่าทำไมโรงงานผลิต ไม่ว่าจะเป็น Daikin, Mitsibushi, Carrier และโรงงานอื่นๆ อีกมากมาย ทำไมถึงแนะนำให้ล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน
ขอเล่าคร่าวๆ ถึงวิธีการทำงานของแอร์ก่อนว่าโดยปกติแล้ว การทำงานของแอร์จะมีน้ำยาไหลอยู่ในระบบ ไหลผ่านทองแดง ซึ่งส่วนที่ผ่านไประหว่างนั้น จะเกิดความเย็นเกิดขึ้น เมื่อมีความเย็น สภาวะแวดล้อมภายในที่มีทั้งฝุ่นและก๊าซต่างๆ ก็จะเริ่มจับตัวกัน และไอน้ำที่เกิดจากความเย็นของแอร์และความร้อนของอากาศ ก็จะก่อให้เกิดเป็นเมือกเหลวข้นขึ้นมา จึงทำให้เป็นที่สะสมของทั้งแบคทีเรียและก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นนั่นเอง และเมื่อมีเมือกจับตัวอยู่ที่อุปกรณ์ภายในต่างๆ ของแอร์ ก็จะทำให้แอร์มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดน้อยลง (ความเย็นไม่สามารถส่งผ่านออกมาได้เนื่องจากมีเมือกมาเป็นตัวกั้นระหว่างอุปกรณ์) ส่งผลให้ต้องใช้ไฟมากขึ้นเพื่อส่งให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน ก็จะทำให้แอร์กินไฟมากยิ่งขึ้น และเมื่อมีเมือกมากขึ้นไปอีกก็จะเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดน้ำรั่วไหลออกมาจากตัวแอร์นั่นเอง
ประโยชน์จากการล้างแอร์
แอร์เย็นเร็วขึ้น เนื่องจากไม่มีฝุ่นและเมือกเป็นตัวปิดกั้นการทำงาน
ยืดอายุการใช้งาน คอยล์ร้อนหรือ CDU จะทำงานเต็มประสิทธิภาพและไม่เกินกำลัง
กำจัดแบคทีเรีย ปราศจากกลิ่นเหม็นอับเนื่องจากการสะสมของแบคทีเรีย
ประหยัดค่าไฟ จ่ายค่าไฟน้อยลงเพราะแอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
แอร์สะอาดมากขึ้น ปราศจากฝุ่นที่เป็นสาเหตุให้คุณป่วยได้ง่าย
เหตุผลหลักๆ ว่าทำไม เราถึงต้องล้างแอร์?
เครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าแต่ละเดือน
ช่วยลดฝุ่นละออง และ เชื้อโรค ที่มองไม่เห็น
ลดปริมาณการก่อตัวของเชื้อโรค
ป้องกันโรคที่เกิดจากเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศทำความเย็นได้เร็วขึ้น
ลดปริมาณกลิ่นอับชื้น
ประหยัดรายจ่ายจากการซ่อมแซม
คุ้มค่าเงิน
ช่วยลดภาวะโลกร้อนอันเกิดจากการใช้พลังงาน
ช่วยลดอาการน้ำหยดเนื่องจากมีฝุ่นไปอุดตันในท่อน้ำทิ้ง
ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ
แล้วเราล้างแอร์เองได้ไหม? หรือจ้างช่างล้างแอร์ดีน้า?
จริงๆแล้ว เราสามารถล้างแอร์ได้ แต่คนส่วนใหญ่ งานเยอะ/ไม่มีเวลา/ขี้เกียจ และที่สำคัญมันยุ่งยาก เพราะใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่เชี่ยวชาญชำนาญ และสมัยนี้ราคาค่าบริการล้างแอร์ไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แอร์ไม่เย็น เหมือนที่เคยเป็น
แอร์เย็นช้า
แอร์มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับเวลาเปิดเครื่อง
ใช้แอร์เท่าเดิม แต่ค่าไฟเพิ่มขึ้น!
แอร์ทำงานเสียงดังมากจนรำคาญ
แอร์มีเสียงติดขัดทุกครั้งที่เริ่มทำงาน
ลมที่เป่าออกมาจากแอร์เบามาก
ไม่ได้ล้างแอร์นานเกิน 6 เดือน